การเปรียบเทียบ WiFi 5 (802.11ac) กับ WiFi 6 (802.11ax) และ WiFi 7 (802.11be) โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี MLO (Multi-Link Operation) จะช่วยให้เข้าใจถึงความก้าวหน้าของ WiFi ในแต่ละรุ่นได้ดังนี้:
1. เทคโนโลยี MLO (เฉพาะ WiFi 7)
- WiFi 5:
- ไม่มี MLO
WiFi 5 ใช้การเชื่อมต่อแบบช่องสัญญาณเดี่ยว (Single Link) เท่านั้น โดยอุปกรณ์จะเลือกใช้ ช่องสัญญาณที่ดีที่สุด ในย่านความถี่เดียว เช่น 5 GHz
หากช่องสัญญาณมีปัญหา (เช่น แบนด์วิดท์เต็มหรือสัญญาณรบกวน) จะไม่สามารถส่งข้อมูลได้เร็วหรือเสถียรเท่าที่ควร
- ไม่มี MLO
- WiFi 6:
- ยัง ไม่มี MLO เช่นเดียวกับ WiFi 5
แต่ WiFi 6 ใช้เทคโนโลยี OFDMA (Orthogonal Frequency Division Multiple Access) เพื่อแบ่งช่องสัญญาณเป็นหน่วยย่อย (sub-channels) ทำให้สามารถแชร์แบนด์วิดท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ยัง ไม่มี MLO เช่นเดียวกับ WiFi 5
- WiFi 7:
- เพิ่ม MLO (Multi-Link Operation)
ช่วยให้อุปกรณ์เชื่อมต่อหลายช่องสัญญาณ (ย่านความถี่) พร้อมกัน เช่น ใช้ทั้ง 5 GHz และ 6 GHz ในการส่งข้อมูล เพิ่มแบนด์วิดท์รวม และลดเวลาแฝง (latency)
- เพิ่ม MLO (Multi-Link Operation)
2. ความถี่ที่รองรับ
- WiFi 5:
- รองรับเฉพาะ 5 GHz
ไม่รองรับย่าน 2.4 GHz หรือ 6 GHz
- รองรับเฉพาะ 5 GHz
- WiFi 6:
- รองรับทั้ง 2.4 GHz, 5 GHz, และ 6 GHz (ใน WiFi 6E)
ย่าน 6 GHz ช่วยลดปัญหาสัญญาณรบกวนและเพิ่มแบนด์วิดท์สำหรับการใช้งานที่ต้องการความเร็วสูง
- รองรับทั้ง 2.4 GHz, 5 GHz, และ 6 GHz (ใน WiFi 6E)
- WiFi 7:
- รองรับ 2.4 GHz, 5 GHz, และ 6 GHz
ย่าน 6 GHz ถูกใช้งานเต็มประสิทธิภาพ พร้อมเทคโนโลยี MLO ที่ช่วยรวมการใช้งานจากหลายย่านความถี่
- รองรับ 2.4 GHz, 5 GHz, และ 6 GHz
3. ความเร็วสูงสุด
- WiFi 5:
- ความเร็วสูงสุด 6.9 Gbps (ในช่องสัญญาณ 160 MHz และ MU-MIMO)
- WiFi 6:
- ความเร็วสูงสุด 9.6 Gbps
เพิ่มขึ้นจาก WiFi 5 ประมาณ 40% ด้วยการใช้ 1024-QAM และ OFDMA
- ความเร็วสูงสุด 9.6 Gbps
- WiFi 7:
- ความเร็วสูงสุด 46 Gbps (ขึ้นอยู่กับจำนวนเสาสัญญาณและช่องสัญญาณที่ใช้งาน)
เพิ่มขึ้นจาก WiFi 6 ประมาณ 4-5 เท่า ด้วย 4096-QAM, 320 MHz channel, และ MLO
- ความเร็วสูงสุด 46 Gbps (ขึ้นอยู่กับจำนวนเสาสัญญาณและช่องสัญญาณที่ใช้งาน)
4. การมอดูเลต (Modulation Scheme)
- WiFi 5:
- ใช้ 256-QAM (Quadrature Amplitude Modulation)
- ความจุข้อมูลต่อฮาร์ดแวร์ต่อช่องสัญญาณจำกัด
- ใช้ 256-QAM (Quadrature Amplitude Modulation)
- WiFi 6:
- ใช้ 1024-QAM
- เพิ่มความจุข้อมูลได้ 25% จาก WiFi 5
- ใช้ 1024-QAM
- WiFi 7:
- ใช้ 4096-QAM
- เพิ่มความจุข้อมูลขึ้นอีก 20% เมื่อเทียบกับ WiFi 6
- ใช้ 4096-QAM
5. แบนด์วิดท์ช่องสัญญาณ (Channel Bandwidth)
- WiFi 5:
- รองรับแบนด์วิดท์สูงสุด 160 MHz
- WiFi 6:
- รองรับแบนด์วิดท์สูงสุด 160 MHz
(เหมือน WiFi 5 แต่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานช่องสัญญาณด้วย OFDMA)
- รองรับแบนด์วิดท์สูงสุด 160 MHz
- WiFi 7:
- รองรับแบนด์วิดท์สูงสุด 320 MHz
เพิ่มขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับ WiFi 5 และ WiFi 6 ทำให้สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น
- รองรับแบนด์วิดท์สูงสุด 320 MHz
6. การใช้งานหลายอุปกรณ์ (Multi-Device Handling)
- WiFi 5:
- รองรับ MU-MIMO แบบ ดาวน์โหลด (Downlink) เท่านั้น และจำกัดจำนวนผู้ใช้งานสูงสุด
- เมื่อมีหลายอุปกรณ์เชื่อมต่อพร้อมกัน ประสิทธิภาพจะลดลง
- WiFi 6:
- รองรับ MU-MIMO แบบทั้ง Downlink และ Uplink (รองรับการอัปโหลดจากหลายอุปกรณ์พร้อมกัน)
- ใช้ OFDMA แบ่งช่องสัญญาณเพื่อให้รองรับอุปกรณ์หลายตัวได้ดีขึ้น
- WiFi 7:
- รองรับ MU-MIMO สูงสุด 16×16 (16 Streams)
- จัดการอุปกรณ์จำนวนมากได้ดีกว่า WiFi 6
- เพิ่มประสิทธิภาพด้วย MLO ที่ช่วยกระจายโหลดระหว่างช่องสัญญาณ
- รองรับ MU-MIMO สูงสุด 16×16 (16 Streams)
7. เวลาแฝง (Latency)
- WiFi 5:
- เวลาแฝงขึ้นอยู่กับการชนกันของสัญญาณ (Signal Collisions) ในกรณีที่มีผู้ใช้งานหลายคน
เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ไม่เหมาะกับแอปพลิเคชันที่ต้องการความหน่วงต่ำ เช่น AR/VR หรือเกมออนไลน์
- เวลาแฝงขึ้นอยู่กับการชนกันของสัญญาณ (Signal Collisions) ในกรณีที่มีผู้ใช้งานหลายคน
- WiFi 6:
- ลดเวลาแฝงด้วย OFDMA และ Target Wake Time (TWT)
เหมาะสำหรับ IoT และแอปพลิเคชันที่ต้องการความเสถียร
- ลดเวลาแฝงด้วย OFDMA และ Target Wake Time (TWT)
- WiFi 7:
- ลดเวลาแฝงให้ต่ำที่สุดด้วย Multi-Link Operation (MLO) และการสลับช่องสัญญาณอัตโนมัติ
เหมาะสำหรับการเล่นเกม, AR/VR, และการสตรีม 8K/16K แบบเรียลไทม์
- ลดเวลาแฝงให้ต่ำที่สุดด้วย Multi-Link Operation (MLO) และการสลับช่องสัญญาณอัตโนมัติ
8. การใช้งานจริง
คุณสมบัติ | WiFi 5 (802.11ac) | WiFi 6 (802.11ax) | WiFi 7 (802.11be) |
---|---|---|---|
ความถี่ | 5 GHz | 2.4 GHz, 5 GHz, 6 GHz | 2.4 GHz, 5 GHz, 6 GHz |
ความเร็วสูงสุด | 6.9 Gbps | 9.6 Gbps | 46 Gbps |
การมอดูเลต (QAM) | 256-QAM | 1024-QAM | 4096-QAM |
แบนด์วิดท์ช่องสัญญาณ | 160 MHz | 160 MHz | 320 MHz |
Multi-Link Operation | ไม่มี | ไม่มี | มี |
เวลาแฝง (Latency) | ปานกลาง | ต่ำ | ต่ำมาก (Ultra-Low) |
เปรียบเทียบ Coverage Area และการทะลุทะลวงของสัญญาณ WiFi 5, WiFi 6 และ WiFi 7
ความครอบคลุมพื้นที่ (Coverage Area) และความสามารถในการทะลุทะลวงของสัญญาณ WiFi ขึ้นอยู่กับย่านความถี่และเทคโนโลยีที่ใช้ในแต่ละรุ่น ดังนี้:
1. ย่านความถี่ที่รองรับ
มาตรฐาน WiFi | ย่านความถี่ | คุณสมบัติทางกายภาพของสัญญาณ |
---|---|---|
WiFi 5 | 5 GHz | ทะลุทะลวงได้น้อยกว่า 2.4 GHz แต่มีแบนด์วิดท์สูงกว่า |
WiFi 6 | 2.4 GHz, 5 GHz, 6 GHz | ครอบคลุมพื้นที่ได้ดีที่ 2.4 GHz และมีความเร็วสูงที่ 5 GHz/6 GHz |
WiFi 7 | 2.4 GHz, 5 GHz, 6 GHz | เหมือน WiFi 6 แต่ใช้เทคโนโลยี MLO เพื่อปรับปรุงความครอบคลุมโดยรวม |
2. Coverage Area
WiFi 5
- 5 GHz:
- ระยะทาง: ประมาณ 35 เมตร (ในอาคาร) และ 100 เมตร (กลางแจ้ง)
- ความถี่สูงอย่าง 5 GHz มีแบนด์วิดท์ที่กว้าง แต่ระยะสัญญาณสั้นกว่า 2.4 GHz และมีการลดทอนเมื่อผ่านผนังหรือสิ่งกีดขวาง
WiFi 6
- 2.4 GHz:
- ระยะทาง: ประมาณ 50 เมตร (ในอาคาร) และ 150 เมตร (กลางแจ้ง)
- ย่าน 2.4 GHz ครอบคลุมระยะทางได้มากกว่า 5 GHz และทะลุทะลวงสิ่งกีดขวางได้ดีกว่า
- 5 GHz/6 GHz:
- ระยะครอบคลุมใกล้เคียงกับ WiFi 5 แต่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าเนื่องจาก OFDMA และการจัดการทรัพยากรที่ดีขึ้น
WiFi 7
- 2.4 GHz, 5 GHz, และ 6 GHz:
- ใช้เทคโนโลยี MLO (Multi-Link Operation) เพื่อรวมช่องสัญญาณจากหลายย่านความถี่
- ผลลัพธ์:
- หาก 5 GHz มีระยะทางสั้น ระบบจะเสริมด้วยการใช้ 2.4 GHz หรือ 6 GHz เพื่อเพิ่มความครอบคลุม
- ระยะครอบคลุมจึงมีประสิทธิภาพดีกว่า WiFi 5 และ WiFi 6
3. การทะลุทะลวง (Penetration Ability)
WiFi 5
- 5 GHz:
- มีความสามารถทะลุทะลวงต่ำเมื่อเทียบกับ 2.4 GHz
- เมื่อต้องส่งสัญญาณผ่านผนังหรือสิ่งกีดขวาง สัญญาณจะลดทอนอย่างรวดเร็ว
WiFi 6
- 2.4 GHz:
- ย่าน 2.4 GHz มีความสามารถทะลุทะลวงสูงกว่า 5 GHz
- เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านหรืออาคารที่มีผนังหนา
- 5 GHz/6 GHz:
- 5 GHz มีการทะลุทะลวงใกล้เคียง WiFi 5
- 6 GHz มีการทะลุทะลวงต่ำกว่า 5 GHz แต่เหมาะกับการใช้งานระยะใกล้และการส่งข้อมูลความเร็วสูง
WiFi 7
- 2.4 GHz, 5 GHz, และ 6 GHz:
- ใช้ MLO เพื่อจัดการการทะลุทะลวง
- หาก 6 GHz มีการลดทอนผ่านสิ่งกีดขวาง ระบบจะใช้ 2.4 GHz หรือ 5 GHz ชดเชย
- ลดผลกระทบจากการลดทอนเมื่อใช้งานในพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวางจำนวนมาก
- ใช้ MLO เพื่อจัดการการทะลุทะลวง
4. สรุปความแตกต่าง
หัวข้อ | WiFi 5 | WiFi 6 | WiFi 7 |
---|---|---|---|
Coverage Area | 5 GHz ครอบคลุมน้อยกว่า | 2.4 GHz ครอบคลุมระยะไกล, 5/6 GHz สำหรับความเร็วสูง | ครอบคลุมดีกว่า ด้วยการรวมความถี่ (MLO) |
Penetration | 5 GHz ทะลุทะลวงน้อย | 2.4 GHz ทะลุทะลวงได้ดี, 5 GHz ดีปานกลาง | ใช้ MLO เพื่อเพิ่มการทะลุทะลวงในพื้นที่ซับซ้อน |
ประสิทธิภาพรวม | ความครอบคลุมต่ำกว่า | รองรับอุปกรณ์มากขึ้นและจัดการแบนด์วิดท์ได้ดีขึ้น | ครอบคลุมดีกว่า ใช้หลายย่านความถี่พร้อมกัน |
ข้อควรพิจารณา
- WiFi 5: เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การสตรีมวิดีโอหรือเล่นเกมในพื้นที่โล่ง
- WiFi 6: เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีผนังหรือสิ่งกีดขวาง เช่น บ้านหรือสำนักงานที่มี IoT จำนวนมาก
- WiFi 7: เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ซับซ้อน เช่น อาคารสูง หรือพื้นที่ที่ต้องการความเร็วสูงและความเสถียร โดยใช้ MLO เพื่อลดข้อจำกัดจากย่านความถี่เดี่ยว
WiFi 7 จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในด้านการครอบคลุมและการทะลุทะลวงของสัญญาณ!